การทํา เลสิก (Lasik) คืออะไร?
การทําเลสิก – LASIK (Laser In-Situ Keratomileusis) คือ การใช้แสงเลเซอร์ไปปรับแต่งความโค้งของกระจกตา ทำให้แสงตกกระทบแล้วโฟกัสลงจอประสาทตาพอดี โดยแสงเลเซอร์ที่เราใช้นี้ เรียกว่า Excimer Laser เป็นเลเซอร์เย็นชนิดที่ปรับแต่งพื้นผิว (Photoablation) เท่านั้น จึงมีผลเฉพาะบริเวณผิวกระจกตา ไม่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในตาได้ Excimer Laser เป็นแสงย่าน Ultraviolet มีความยาวคลื่น 193 nanometer แสงนี้มีความแม่นยำมากอยู่ในย่าน Micron หรือ 10-6 เมตร
LASIK ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ
- แยกผิวกระจกตาออก
- ใช้แสงเลเซอร์เพื่อปรับผิวกระจกตา
โดยการทำ LASIK จะทำโดยใช้ยาชาหยอดตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีดมยาสลบ เพราะระหว่างทำจะมีบางขั้นตอนที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของผู้รับบริการบ้าง
ที่จะมองตรงแสงที่จุดใดจุดหนึ่ง กระจกตาของเราซึ่งอยู่ส่วนหน้าสุดของลูกตา ซึ่งประกอบด้วยเนื้อเยื่อบางๆ ที่อัดแน่นกันอยู่เป็นชั้นๆ ซึ่งจะมีการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Microkeratome เพื่อเปิดผิวของกระจกตาเท่านั้น ผิวกระจกตาที่ถูกแยกออกมาก็จะถูกเปิดออกโดยยังมีขั้วด้านหนึ่งเหลือติดไว้กับลูกตาตลอดเวลา
จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการใช้แสงเลเซอร์มาปรับความ โค้งกระจกตา ซึ่งใช้เวลาเพียง 5-10 วินาที เท่านั้น ระหว่างขั้นตอนนี้จะต้องมองนิ่งที่แสงนำเลเซอร์ซึ่งเป็นจุดสีแดงเพื่อให้แสง ตกลงกลางดวงตาพอดี บางช่วงอาจมองไม่ตรงหรือมองไฟสีแดงไม่เห็น เพราะเลเซอร์ที่เราใช้มีระบบตามการกลอกของลูกตา (pupil Tracking) ที่เร็วมาก ถึงแม้มองไม่ตรงบ้างแสงเลเซอร์สามารถจะตามลูกตาได้โดยอัตโนมัติ และขณะที่ใช้แสงเลเซอร์จะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย
ขั้นสุดท้ายเป็นการล้างตาแล้วปิดผิวกระจกตากลับโดยไม่ต้องเย็บ เพราะผิวกระจกตาจะดูดกลับที่เดิมเองด้วยแรงสูญญากาศ เหมือนพลาสติกใสที่ติดกระจกรถ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต่อตา 1 ข้าง
เมื่อทำเสร็จแล้วตาจะถูกครอบด้วยฝาครอบตาใสๆ ซึ่งมองลอดผ่านได้ จะมองเห็น แต่อาจไม่ค่อยชัดเจนนักในวันแรก แต่เห็นพอที่จะเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น กินข้าวได้ อาบน้ำได้ แปรงฟันได้ เดินไปมาได้ คุณสามารถกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้านได้ จากนั้นจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในวันต่อมา
ผู้ที่เหมาะสม ที่จะรับการรักษาด้วยวิธีเลสิค
- มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
- มีสายตาคงที่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
- ไม่เป็นโรคของกระจกตา หรือโรคที่เกี่ยวกับเบาหวาน
- ไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์
- มีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อภาวะเสี่ยง หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้

การเตรียมตัวก่อนทำเลสิค
เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ท่านจะรู้สึกวิตกกังวลหรือกลัว ปนกับความตื่นเต้นที่จะทำเลสิค
คนไข้ของเราแทบทุกคนก็มีความรู้สึกนี้เช่นเดียวกับท่าน ท่านควรเตรียมตัวดังนี้

นำผลตรวจเลือดมาด้วย
นำผลตรวจเลือด Anti-HIV หรือบัตรบริจาคเลือด ซึ่งมีระยะเวลาในการตรวจไม่เกิน 3 เดือนมาด้วย

ควรสระผม
ควรสระผมก่อนวันทำเลสิค 1 วัน และก่อนมาทำเลสิค ควรทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย

หยุดสวย 1 วัน
ในวันทำเลสิค ห้ามแต่งหน้า ห้ามทาเล็บ ห้ามทาครีม ห้ามใส่น้ำหอมหรือสเปรย์ ทุกชนิด

การแต่งตัว เสื้อผ้า
สวมเสื้อผ้าที่สวมสบาย ถอดง่าย ควรเป็นเสื้อที่มีกระดุมผ่าหน้า เพื่อสะดวกเวลาถอด

ทานอาหารได้ตามปกติ
ท่านไม่ต้องอดอาหารก่อนการทำเลสิค ไม่มีข้อห้ามที่จะรับประทานอาหารชนิดต่างๆ ยกเว้นเหล้าหรือยานอนหลับที่ทำให้ท่านรู้สึกง่วงระหว่างทำ

พยายามอย่ามาคนเดียว
ควรนำญาติมาด้วยในวันทำเลสิค และฝากของมีค่าต่างๆ ไว้กับญาติ ก่อนเข้าห้องทำเลสิค

ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย
ท่านไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เมื่อทำเลสิค เรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถกลับบ้านได้เลย และควรจะมีคนมารับส่งในวันทำเลสิค ถ้าไม่มีโปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อจัดเตรียมรถแท็กซี่บริการท่านได้

ต้องมาอีกในวัดถัดไป
ท่านจำเป็นต้องมาตรวจติดตามอาการในวันรุ่งขึ้น ตามแพทย์นัด เพื่อดูแผลผ่าตัดและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังทำผ่าตัดที่ถูกต้อง
อาการที่ท่านอาจมีได้หลังทำเลสิค
- ผู้ที่มาทำเลสิคส่วนใหญ่จะหายเร็วมากภายใน 24-48 ชั่วโมง สายตาจะค่อยๆ ชัดขึ้น อาจมีสายตาขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่ได้ในช่วงสัปดาห์แรก
- ตาแดง บางท่านอาจมีจุดสีแดงที่บริเวณตาขาวได้ จุดนี้เกิดจาก Suction Ring จุดแดงนี้ไม่มีผลกับสายตาหรือตาดำ จุดนี้จะค่อยๆ จางลงไปเองใน 1-2 สัปดาห์
- เคืองตา อาจมีได้โดยเฉพาะภายใน 24 ชั่งโมงแรก ท่านอาจมีน้ำตาไหล น้ำมูกไหลได้ ท่านเพียงซับน้ำตาที่ไหลล้นออกมานอกฝาครอบตาเท่านั้น ห้ามแยงนิ้วเข้าไปซับน้ำตาใต้ฝาครอบตา การพักผ่อนด้วยการนอนหลับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้อาการเหล่านี้ดีขึ้น หลังจากตื่นนอนในเช้าวันแรกอาการเหล่านี้จะดีขึ้นมาก
- ตาพร่าหรือสายตาชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ในช่วงสัปดาห์แรก สายตาจะค่อยๆคงที่ขึ้นเรื่อยๆ ตามการหายของแผล
- ตาแห้ง พบว่าในบางท่านอาจมีอาการตาแห้งเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะท่านที่ที่มีตาแห้งอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ตาพร่าเป็นครั้งคราวได้หรือมีอาการแสบ เคืองตาเวลาที่มีลมพัดเข้าตา เชื่อว่าอาการนี้เกิดจากการที่เราไปรบกวนเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกระจกตาทำให้ ระบบการกระตุ้นน้ำตาลดลงชั่วคราว อาการตาแห้งนี้จะค่อยๆดีขึ้นเองหลังจากเส้นประสาทปรับตัวได้
- มองใกล้ไม่ชัด ในช่วงแรกสายตามองไกลจะกลับมาชัดก่อนสายตามองใกล้ จากนั้นสายมองใกล้จะค่อยๆ ดีขึ้นตามมาตามลำดับ
- แสงกระจายตอนกลางคืน อาจเห็นดวงไฟกระจายกว้างขึ้นกว่าปกติโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก
ส่วนใหญ่แล้วจะดีขึ้นเองหลัง 1 สัปดาห์ แสงกระจายนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ในคนที่มีสายตาสั้นมากๆ และมีม่านตาขยายใหญ่กว่าคนปกติในเวลากลางคืน ซึ่งแพทย์จะแจ้งให้ทราบตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจประเมินสายตาว่าท่านมีความ เสี่ยงนี้มากน้อยเพียงใด
